วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559



บันทึกการเรียนครั้งที่ 4

วันจันทร์ ที่ 29 สิงหาคม 2559

ความรู้ที่ได้รับ


เกมการสื่อสาร





  1. เกมสื่อความหมาย : ตัวแทน 1 คน อ่านประโยคและทำท่า ส่งต่อจนครบ 5 คน
  2. เกมทายคำ: ตัวแทน 1 เป็นคนใบ้ 2 เป็นคนทาย 3 เป็นคนชูคำด้านหลัง
  3. เกมพรายกระซิบ : ตัวแทน 1 คน จำประโยค และบอกต่อจนครบ 5 คน 
  4. เกม ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร่ อย่างไร กับใคร : ตัวแทน 6 คน เขียน คนละ 5 ข้อ



ความหมายของการสื่อสาร

การสื่อสาร  (Communication) : คือ กระบวน การส่งข่าวสาร ข้อมูล จากผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา

ความสำคัญของการสื่อสาร

  • ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม 
  • ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
  • ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
  • ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
  • ช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต

รูปแบบของการสื่อสาร

  • รูปแบบการสื่อสารของอริสโตเติล (Aristotle’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล (Lasswell’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของแชนนอนและวีเวอร์ (Shannon & Weaver’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของออสกูดและชแรมม์ (C.E Osgood and Willbur Schramm’s )
  • รูปแบบการสื่อสารของเบอร์โล (Berlo’s Model of Communication) 
  • รูปแบบการสื่อสารของอริสโตเติล (Aristotle’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล (Lasswell’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของแชนนอนและวีเวอร์ (Shannon & Weaver’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของออสกูดและชแรมม์ (C.E Osgood and Willbur Schramm’s )
  • รูปแบบการสื่อสารของเบอร์โล (Berlo’s Model of Communication) 

องค์ประกอบของการสื่อสาร
1. ผู้ส่งข่าวสาร (Sender)
2. ข้อมูลข่าวสาร (Message) 
3. สื่อในช่องทางการสื่อสาร (Media) 
4. ผู้รับข่าวสาร (Receivers) 
5. ความเข้าใจและการตอบสนอง

สื่อ : ใช้วิธีพูด เขียน หรือการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น ใช้รูปภาพ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ โดยวิธีการติดต่อนั้นต้องใช้ตัวกลางต่างๆ เช่น คลื่นเสียง ตัวหนังสือ แผ่นกระดาษที่มีตัวหนังสือเขียน  คลื่นวิทยุโทรทัศน์ ตัวกลางเหล่านี้เรียกว่า สื่อ โดยการสื่อสารนั้นสามารถใช้สื่อหลายๆอย่างได้พร้อมๆกัน เช่น การเรียน การสอน ต้องใช้ทั้งหนังสือ กระดาน ภาพสาร : คือ เรื่องราวที่รับรู้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น  ข้อเท็จจริง  ข้อแนะนำ  การล้อเลียน  ความปรารถนาดี  ความห่วงใย  มนุษย์จะแสดงออกมาให้เป็นที่รับรู้ได้ การสื่อสารจะเกิดขึ้นตามกาลเทศะ  และสภาพแวดล้อมต่างๆในสังคม

วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร
1. เพื่อแจ้งให้ทราบ
2. เพื่อความบันเทิงใจ
3. เพื่อชักจูงใจ

ขอบข่ายครอบคลุมลักษณะการสื่อสารของมนุษย์ 3 ลักษณะ คือ
3.1 การสื่อสารส่วนบุคคล (Intrapersonal Communication)
3.2 การสื่อสารระหว่างบุคคล (Interpersonal Communication) 
3.3 การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

การสื่อสารกับตนเอง

  • การสื่อสารที่บุคคลเดียวเป็นทั้งผู้ส่งสารและรับสาร
  • การคิดหาเหตุผลโต้แย้งกับตนเองในใจ
  • เนื้อหาไม่มีขอบเขตุจำกัด
  • บางครั้งมีเสียงพึมพำดังออกมาบ้าง
  • บางครั้งเกิดความขัดแย้งในใจและไม่อาจตัดสินใจได้
  • อาจเป็นการปลอบใจตนเอง การเตือนตนเอง การวางแผน หรือแก้ปัญหาใดๆ

การสื่อสารระหว่างบุคคล

  • บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ไม่ถึงกับเป็นกลุ่ม
  • เป็นเรื่องเฉพาะระหว่างบุคคล อาจไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
  • อาจเป็นความลับระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสารเท่านั้น
  • สารที่สื่ออาจเปิดเผยหากมีประโยชน์ต่อบุคคลอื่น


การสื่อสารสาธารณะ

  • มีเป้าหมายจะส่งสารสู่สาธารณชน
  • มีเนื้อหาที่อาจให้ความรู้และเป็นประโยชน์ ให้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
  • เป็นความคิดที่มีคุณค่าและเปิดเผยได้โดยไม่จำกัดเวลา
  • เช่น การบรรยาย การปาฐกถา  การอมรม การสอนในชั้นเรียน
  • การสื่อสารมวลชน

ธรรมชาติและพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง

ออเออร์บาค (Auerbach,1968) ได้กล่าวถึงธรรมชาติของผู้ปกครองไว้ดังนี้

  • ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้ได้
  • ผู้ปกครองมีความต้องการที่จะเรียนรู้
  • ผู้ปกครองเรียนรู้ได้ดีที่สุดในสิ่งที่เขาสนใจ
  • การเรียนรู้จะมีความหมายที่สุดก็ต่อเมื่อเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวของผู้ปกครอง
  • การมีอิสระในการเรียนรู้จะทำให้ผู้ปกครองเรียนรู้ได้ดีที่สุด
  • ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้ได้จากกันและกัน
  • การให้ความรู้กับผู้ปกครองถือเป็นการให้ประสบการณ์ใหม่แก่ผู้ปกครอง

ธรรมชาติการเรียนรู้ของผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

  • เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก
  • เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์
  • มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
  • เรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติ
  • เรียนรู้ได้ดีในบรรยากาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด
  • ควรได้รับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้นตอน
  • เรียนรู้ได้ดีจากสื่อและอุปกรณ์ที่หลากหลาย


พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง
  • ความพร้อม  คือ สภาพความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจที่จะเรียนรู้
  • ความต้องการ คือ ความต้องการให้ชีวิตดำเนินไปอย่างมีความสุข 
  • อารมณ์และการปรับตัว คือ  แนวโน้มที่จะปฏิบัติต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทั้งทางบวกและลบ  
  • การจูงใจ คือ การกระตุ้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ 
  • การเสริมแรง คือ การสร้างความพึงพอใจหลังการเรียนรู้ให้แก่ผู้ปกครอง เช่น คำชมเชย รางวัล
  •  ทัศนคติและความสนใจ คือ การที่บุคคลมีการตอบสนองและแสดงความรู้สึกต่อสิ่งเร้าต่างๆ 
  • ความถนัด คือ ความสามารถของบุคคลในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อุปสรรคที่สำคัญของการสื่อสาร

  • ผู้ส่งข่าวสารขาดทักษะในการสื่อสารที่ดี เช่นใช้ภาษาที่อยากแก่การเข้าใจ หรือไม่เหมาะแก่ผู้รับ
  • ข้อมูลข่าวสารมากเกินไป
  • ได้ข่าวสารไม่ครบสมบูรณ์ ทำให้สื่อความหมายผิดๆ
  • ข้อมูลที่ส่งไปผ่านหลายขั้นตอน
  • เลือกใช้เครื่องมือในการส่งข่าวสารไม่เหมาะสม
  • รีบเร่งด่วนสรุปข่าวสารเร็วเกินไป ขาดการไตร่ตรอง
  • ผู้รับข่าวสารไม่ทบทวน หรือสอบถามให้เข้าใจเมื่อสงสัย
  • อารมณ์ของผู้รับ หรือผู้ส่งอยู่ในสภาพไม่ปกติ
  • ผู้ส่งหรือผู้รับมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่รับฟังความคิดเห็นผู้อื่น


7 C กับการสื่อสารที่ดี

  • Credibility ความน่าเชื่อถือ 
  • Content เนื้อหาสาระ 
  • Clearly ความชัดเจน 
  • Context ความเหมาะสมกับโอกาส 
  • Channel ช่องทางการส่งสาร 
  • Continuity consistency ความต่อเนื่องและแน่นอน 
  • Clarity of audience ความสามารถของผู้รับสาร

คุณธรรมในการสื่อสาร

  • คุณธรรม คือ ความดีงามที่มีอยู่ในตัวบุคคล
  • ต้องประกอบด้วยเหตุผลที่ดีของแต่ละบุคคล
  • เกิดจากการปลูกฝังตั้งแต่เด็ก
  • เกิดจากการได้เห็น ได้ยิน ได้อ่าน
  • เกิดจากการได้เห็นพฤติกรรมของคนที่เคารพรักเป็นแบบอย่าง
  • ความมีสัจจะและไม่ล่วงละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน
  • ความรัก ความเคารพและความปรารถนาดีต่อกัน
  • ความรับผิดชอบในสิ่งที่ตนพูดหรือกระทำ




คำถามท้ายบท
1. จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
ตอบ  กระบวน การส่งข่าวสาร ข้อมูล จากผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา ความสำคัญทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย

2. การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
ตอบ เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความศรัทธา เชื่อมั่นและมีความอบอุ่นว่าสถานศึกษาจะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นก็ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง บ้านโรงเรียน ชุมชนและสังคมเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเด็กร่วมกัน

3.รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง ควรเป็นรูปแบบใด จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ การสื่อสารโดยการให้ความหมายอย่างเข้าใจ ของลาสแวลล์




4.ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
ตอบ 
  • เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก
  • เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์
  • มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
  • เรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติ
  • เรียนรู้ได้ดีในบรรยากาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด
  • ควรได้รับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้นตอน
  • เรียนรู้ได้ดีจากสื่อและอุปกรณ์ที่หลากหลาย

5.ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง

ตอบ  
  • ความพร้อม  คือ สภาพความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจที่จะเรียนรู้
  • ความต้องการ คือ ความต้องการให้ชีวิตดำเนินไปอย่างมีความสุข 
  • อารมณ์และการปรับตัว คือ  แนวโน้มที่จะปฏิบัติต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทั้งทางบวกและลบ  
  • การจูงใจ คือ การกระตุ้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ 
  • การเสริมแรง คือ การสร้างความพึงพอใจหลังการเรียนรู้ให้แก่ผู้ปกครอง เช่น คำชมเชย รางวัล
  • ทัศนคติและความสนใจ คือ การที่บุคคลมีการตอบสนองและแสดงความรู้สึกต่อสิ่งเร้าต่างๆ 
  • ความถนัด คือ ความสามารถของบุคคลในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การนำไปประยุกต์ใช้
สามารถนำเกมไปใช้สำหรับเข้าสู่บทเรียนสามารถใช้ทฤษฏีมาอ้างอิงพฤติกรรมผู้ปกครองเพื่อการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับเด็กให้ผู้ปกครองได้เข้าใจอย่างถูกต้อง

ประเมินผล
ตนเอง : ได้ร่วมกิจกรรมและเกมที่อาจารย์นำมา สนุกสนานมาก
เพื่อน : ร่วมกิจกรรมกันอย่างตั้งใจ 
อาจารย์ : มีเกม กิจกรรม ให้มีส่วนร่วมทั้งชั้นเรียน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น